คริสเตียโนโรนัลโด วันนี้จะพามารู้จักกับอีกหนึ่งตำนาน ของทัพปีศาจแดง ที่เหล่าแฟนบอลทั่วโลก ต่างรู้จักเป็นอย่างดี
คริสเตียโนโรนัลโด เป็นนักฟุตบอลชาวโปรตุเกส ตำนานกองหน้าหมายเลข7ทัพผีแดง ซึ่งเล่นในตำแหน่งกองหน้าให้แก่อันนัศร์ สโมสรในซาอุดีโปรเฟสชันนัลลีก และเป็นกัปตันทีมชาติโปรตุเกส ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่ง ในผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล เขาได้รับรางวัลบาลงดอร์ 5สมัย และรางวัลรองเท้าทองคำยุโรป 4สมัย ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดของผู้เล่นชาวยุโรป โรนัลโดยังครองสถิติสำคัญได้แก่ เป็นผู้เล่นที่ลงสนามมากที่สุด (183นัด) ทำประตูมากที่สุด (140ประตู)
และทำแอสซิสต์มากที่สุด (42ครั้ง) ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก เป็นผู้เล่นคนเดียวที่ทำประตูใน ฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายห้าสมัย เป็นผู้ทำประตูมากที่สุดในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปรอบสุดท้าย (14ประตู) เป็นผู้เล่นชายที่ทำประตูในนามทีมชาติมากที่สุด (122ประตู) เป็นผู้เล่นชายชาวยุโรปที่ลงสนาม ในนามทีมชาติมากที่สุด (198นัด) และเป็นผู้เล่นคนเดียวที่เป็นผู้ทำประตูสูงสุด ประจำฤดูกาลในลีกสูงสุดของอังกฤษ สเปนและอิตาลี
โรนัลโดชนะเลิศถ้วยรางวัล 32รายการ ซึ่งรวมถึงแชมป์ลีก 7สมัย, แชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 5สมัย, แชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป และแชมป์ยูฟ่าเนชันส์ลีก เขาลงแข่งขันมากกว่า 1,100นัด และทำประตูในการแข่งขันทางการมากกว่า820ประตู เขาเป็นหนึ่งในนักกีฬาที่มีชื่อเสียงโด่งดัง
และร่ำรวยที่สุดในโลก ได้รับการจัดอันดับโดยฟอบส์ ให้เป็นนักกีฬาที่ได้รับค่าจ้างสูงที่สุดในค.ศ.2016 และ2017 และการจัดอันดับจากอีเอสพีเอ็น ให้เป็นนักกีฬาที่มีชื่อเสียงที่สุดในช่วงค.ศ.2016–2019 สุดยอดดาวยิงระดับตำนานของทัพปีศาจแดงแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด รวมทั้งการยกย่องจากไทม์ให้เป็น 1 ใน 100 บุคคลผู้ทรงอิทธิพลของโลกใน ค.ศ.2014 เขาถือเป็นนักกีฬาคนที่3 และเป็นนักฟุตบอลคนแรกที่ทำรายได้เกิน 1พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ดูบอลออนไลน์
มาดูถึงประวัติของ คริสเตียโนโรนัลโด ว่าเส้นทางลูกหนังของเขา มีความเป็นมาอย่างไร? ก่อนมามีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก
คริสเตียโรนัลโด สุดยอดดาวยิงระดับตำนานของทัพปีศาจแดงแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เริ่มต้นเส้นทางฟุตบอลด้วยการ เข้าทีมเยาวชนของAndorinha ตอนอายุ6ขวบก่อนจะย้ายมาอยู่กับ Nacionalในอีก2ปีต่อมา และฉายแววโดดเด่นจนได้เข้าสู่ อคาเดมีของสปอร์ติ้งลิสบอน สโมสรยักษ์ใหญ่ของโปรตุเกส ในวัย12ปีในทีมอคาเดมี่ โรนัลโดพัฒนาฝีเท้าขึ้นมาได้อย่างโดดเด่น กระทั่งถูกดันขึ้นมาเล่นทีมชุดใหญ่ ของสปอร์ติ้งลิสบอน
และลงประเดิมสนามในลีกโปรตุเกส นัดแรกด้วยวัยเพียง 17 ปีเท่านั้นในฤดูกาล2002-2003 ตำนานกองหน้าหมายเลข7ทัพผีแดง และเจ้าหนูโรนัลโดก็ไม่ปล่อยโอกาสทอง ให้หลุดลอยโดยทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่อง ทำให้ได้รับโอกาสลงสนามถึง 31นัดในทุกรายการยิงได้5ประตู ซึ่งถือว่าไม่ธรรมดาเลย สำหรับแข้งดาวรุ่งวัย17ย่าง18ปีเท่านั้น พร้อมกับตกเป็นเป้าหมาย ที่สโมสรดังทั่วยุโรปเริ่มให้ความสนใจ หลังจากนั้นจุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้น ในเกมอุ่นเครื่องช่วงปรีซีซั่น เมื่อเดือนสิงหาคม2003
ซึ่ง แมนฯยูไนเต็ด บุกไปเยือน สปอร์ติ้งลิสบอน และเกมจบลงด้วยชัยชนะของ ลิสบอน 3-1 พร้อมกับฟอร์มสุดโหดของ คริสเตียโรนัลโด ซึ่งเล่นงานเกมรับของทีมผีแดง จนปั่นป่วนตลอดทั้งเกมถึงขั้นที่บรรดานักเตะ ต้องไปบอกกุนซือ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ให้รีบไปกระชากตัวเจ้าดาวรุ่งฝอยทองคนนี้ มาร่วมทีมโดยด่วน หลังจากเกมที่เจอกับสปอร์ติ้ง พวกลูกทีมผมต่างพูดถึงเขา (โรนัลโด) แบบไม่หยุดเลยในห้องแต่งตัว
และตอนขึ้นเครื่องบินเดินทางกลับ หลังจบเกมพวกเขาก็มากระตุ้นให้ผม รีบไปเซ็นคว้าตัวมาเร็วๆเลย เขาเป็นหนึ่งในผู้เล่นดาวรุ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจ ที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมาเลยนะ เฟอร์กี้กล่าว และผ่านไปอีกแค่สัปดาห์เดียว เจ้าหนูโรนัลโดวัย18ปีก็มายืนโดดเด่น เป็นสง่าที่อยู่โอลด์แทรฟฟอร์ด ด้วยค่าตัว 12.24 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นสถิตินักเตะ “วัยทีน” ที่ค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษ ณ เวลานั้น
การย้ายมายังถิ่นปีศาจแดง โรนัลโ ร้องขอเสื้อหมายเลข28 ซึ่งเป็นเบอร์เดียวกับที่เขาใส่กับสปอร์ติ้งลิสบอน แต่เฟอร์กี้กลับมอบเสื้อหมายเลข7 ให้กับเขาซึ่งเป็นเบอร์ของแข้งระดับตำนานอย่าง จอร์จ เบสต์, ไบรอัน ร็อบสัน, เอริค คันโตน่า และ เดวิด เบ็คแฮม หากเป็นดาวรุ่งคนอื่น อาจจะกดดันจนโชว์ฟอร์มไม่ออก แต่ไม่ใช่กับเด็กหนุ่มที่ชื่อ โรนัลโด้ซึ่งใช้เบอร์7 เป็นแรงผลักดันให้ตัวเอง ต้องก้าวขึ้นมาเป็นสุดยอดผู้เล่น
เหมือนตำนานเหล่านั้นให้ได้ สุดยอดดาวยิงระดับตำนานของทัพปีศาจแดงแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ยิ่งบวกกับการมียอดกุนซืออย่าง เฟอร์กี้ ช่วยขัดเกลาและบ่มเพาะ ยิ่งทำให้โรนัลโดพัฒนาฝีเท้าได้อย่างรวดเร็ว และเขย่าสังเวียนลูกหนังพรีเมียร์ลีก ได้อย่างน่าทึ่งในช่วงแรกบนลีกเมืองผู้ดี โรนัลโดถูกวิจารณ์เกี่ยวกับสไตล์การเล่นที่มัก “ฉายเดี่ยว” ตะบี้ตะบันเลี้ยงมากจนเกินไป รวมถึงการสับขาหลอกคู่แข่ง ที่ถูกนำมาใช้อย่างพร่ำเพรื่อ โดยปีแรกกับแมนฯยูไนเต็ด ในซีซั่น2003-04 เจ้าโด้เปรี้ยงปร้างมากนักซัดไป 6ลูกจากการลงเล่น 40นัดในทุกรายการ
แต่หลังจากนั้นโรนัลโดค่อยๆปรับสไตล์ การเล่นเพื่อทีมมากขึ้นตลอดจนสภาพร่างกาย ตำนานกองหน้าหมายเลข7ทัพผีแดง และฝีเท้าที่แข็งแกร่งขึ้นตามลำดับ ทำให้โรนัลโดก้าวขึ้นมา เป็นสุดยอดนักเตะพรีเมียร์ลีกแบบไร้ข้อกังขา ด้วยผลงานพาแมนฯยูไนเต็ดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 3 สมัยซ้อน ในฤดูกาล2006-07, 2007-08 และ2008-09 รวมถึงแชมป์อื่นๆและเกียรติยศส่วนตัวอีกนับไม่ถ้วน โดยเฉพาะในปี2008 ซึ่งโรนัลโด้กวาดทั้งรางวัล บัลลงดอร์ และผู้เล่นยอดเยี่ยมของฟีฟ่า มาครองได้แบบสุดยอด
การย้ายมาเรอัลมาดริดของคริสเตียโนโรนัลโด ในฤดูกาล2009–10
ในวันที่26มิถุนายน ค.ศ.2009 คริสเตียโนโรนัลโด ตำนานกองหน้าหมายเลข7ทัพผีแดง ได้เปิดตัวกับสโมสรและเขาได้รับเสื้อหมายเลข9 โดยในฤดูกาลแรกนี้ โรนัลโดทำผลงาน ได้อย่างยอดเยี่ยมโดยได้ลงเล่นเป็นตังจริง ทั้งหมด 35นัดทำประตูไปได้ 33ประตู และครองดาวซัลโวสูงสุดของลาลิกา โดยโรนัลโดได้เล่นในตำแหน่งกองหน้า และบางครั้งก็สลับไปยืนในตำแหน่งปีกขวา
โรนัลโดทำประตูแรกในนัดที่พบกับ เดปอร์ติโบเดลาโกรุญญา โดยเรอัลมาดริดชนะไป3–2 ต่อมาโรนัลโดทำสถิติเป็นผู้เล่นคนแรก ของสโมสรที่ทำประตูในการแข่งขัน4นัดแรก ในบ้านได้ในฤดูกาลแรกที่อยู่กับทีม โรนัลโดทำประตูแรกในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก กับเรอัลมาดริดได้จากการยิงฟรีคิก ในนัดที่ทีมเอาชนะซือริชไป2–0 สำหรับผลงานในฤดูกาลแรก แม้เรอัลมาดริดจะไม่สามารถ คว้าถ้วยรางวัลรายการใดได้ในปีนี้
แต่โรนัลโดก็ทำประตูในลีกไปได้ 26ประตูจากจำนวน 29นัด คริสเตียโนโรนัลโด และทำแฮตทริกในลาลิกาได้เป็นครั้งแรก ในนัดที่ทีมเอาชนะ เอร์เรเซเด มายอร์กา4–1 ในเดือนพฤษภาคม2010 แม้ว่าเรอัลมาดริดจะไม่สามารถป้องกัน แชมป์ลาลิกาได้แต่โรนัลโดพาทีมป้องกัน แชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้เป็นสมัยที่3ติดต่อกัน โดยในรอบก่อนรองชนะเลิศ ในนัดที่สองที่เรอัลมาดริดพบยูเวนตุส
โรนัลโดทำได้สองประตู และประตูที่สองของเขาเป็นการยิงจักรยานอากาศ เข้าไปอย่างสวยงามท่ามกลางเสียงปรบมือ ยกย่องจากแฟนบอลยูเวนตุสในสนาม โดยอันเดรอา บาร์ซัลยี กองหลังยูเวนตุสกล่าวยกย่องว่า เปรียบเสมือนการยิงในเกมส์เพลย์สเตชัน โดยเท้าของโรนัลโดนั้นอยู่สูงกว่าพื้นถึง 2.31เมตร เรอัลมาดริดผ่านไบเอิร์นมิวนิก ในรอบรองชนะเลิศ และเข้าไปชนะลิเวอร์พูล3–1 ในนัดชิงชนะเลิศ
โรนัลโดทำสถิติเป็นผู้เล่นคนแรก สุดยอดดาวยิงระดับตำนานของทัพปีศาจแดงแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่คว้าถ้วยยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก5สมัย (ไม่นับยูโรเปียนคัพ) และยังเป็นผู้ทำประตูสูงสุดในรายการนี้ เป็นปีที่6ติดต่อกันจำนวน 15ประตูต่อมา สื่อทั่วโลกได้เสนอข่าวว่าเขา มีความต้องการย้ายออกจากเรอัลมาดริด เนื่องจากหมดความท้าทาย และมีความขัดแย้งกับโฟลเรนติโน เปเรซประธานสโมสร หนึ่งในผู้เล่นกองกลางที่ดีที่สุด
ได้ย้ายมายูเวนตุส(2018–2021)
คริสเตียโนโรนัลโดเดินทางมาถึงตูริน ในวันที่ 16กรกฎาคม ค.ศ.2018 สุดยอดดาวยิงระดับตำนานของทัพปีศาจแดงแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เพื่อรับการตรวจร่างกาย ย้ายร่วมทีมยูเวนตุสหลังจบฟุตบอลโลก2018 โดยยูเวนตุสได้มอบเสื้อเบอร์7 ให้แก่เขา คริสเตียโนโรนัลโด กล่าวว่าการย้ายมาอิตาลีในครั้งนี้ เพื่อหาความท้าทายใหม่ๆ และชื่นชมในความยิ่งใหญ่ของยูเวนตุส
โรนัลโดย้ายมาด้วยราคา 112ล้านยูโรหรือประมาณ 99ล้านปอนด์ ตำนานกองหน้าหมายเลข7ทัพผีแดง เซ็นสัญญา4ปีรับค่าเหนื่อย 500,000ปอนด์/สัปดาห์ ถือเป็นสถิติการซื้อขายนักเตะ ที่ราคาสูงที่สุดของสโมสรในอิตาลี และเป็นนักเตะที่อายุเกิน30ปีที่มีค่าตัวสูงที่สุด ทั้งนี้โรนัลโดกล่าวว่าต้องการ พาทีมยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ยูเวนตุสเปิดขายเสื้อแข่งฤดูกาลใหม่ของโรนัลโด ได้วันเดียวสูงถึง520,000ตัว
ซึ่งสูงกว่าที่เนย์มาร์เคยทำไว้ ในวันแรกของสโมสรปารีแซ็ง-แฌร์แม็งที่ขายไปเพียง10,000ตัวเท่านั้น นอกจากนี้ คริสเตียโนโรนัลโด ได้สร้างสถิติใหม่มากมายในฤดูกาลนี้ โดยทำประตูครบ600ลูกในฟุตบอลลีก ในวันที่ 2มีนาคม2021 ในนัดที่ยูเวนตุสชนะสเปเซีย3–0 ต่อมาในวันที่14มีนาคม สุดยอดดาวยิงระดับตำนานของทัพปีศาจแดงแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด โรนัลโดทำแฮตทริกครั้งที่ 57 ในอาชีพในนัดที่ยูเวนตุสบุกไปชนะกายารี3–1 ในลีก
และสร้างประวัติศาสตร์เป็นผู้เล่น ทีทำประตูในการแข่งขันระดับทางการ สุดยอดดาวยิงระดับตำนานของทัพปีศาจแดงแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติมากที่สุด ตลอดกาลจำนวน 770ประตู แซงหน้าสถิติเดิมของเปเล่ ตำนานทีมชาติบราซิลที่ทำไว้767ประตู และในวันที่12พฤษภาคม โรนัลโดทำประตูได้ในนัดที่ยูเวนตุส บุกชนะซาซูโอโล3–1 เป็นประตูที่100ของเขากับยูเวนตุส และทำสถิติเป็นผู้เล่นยูเวนตุส
ที่ใช้เวลาน้อยที่สุดในการทำครบ100ประตู ต่อมาในวันที่19พฤษภาคม ตำนานกองหน้าหมายเลข7ทัพผีแดง หลังจากชนะเลิศโกปปาอิตาเลีย โรนัลโดถือเป็นผู้เล่นคนแรกในประวัติศาสตร์ คริสเตียโนโรนัลโด ที่ได้แชมป์ฟุตบอลถ้วยรายการหลัก ครบทุกถ้วยในลีกอังกฤษ สเปนและอิตาลี และยังเป็นผู้เล่นคนแรกที่เป็น ดาวซัลโวประจำฤดูกาลในลีกอังกฤษ สเปนและอิตาลี
คริสเตียโนโรนัลโดผลลงานระดับทีมชาติ สร้างประวัติศาสตร์ในการแข่งขันฟุตบอล ชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป2020
ในการแข่งขันฟุตบอล ชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป2020 ตำนานกองหน้าหมายเลข7ทัพผีแดง รอบสุดท้ายนัดที่โปรตุเกส เอาชนะฮังการี2–0 ในรอบแบ่งกลุ่ม คริสเตียโนโรนัล โดทำ2ประตูทำสถิติเป็นผู้เล่นทีทำประตู ในการแข่งขันรอบสุดท้ายได้มากที่สุด แซงหน้า มีแชล ปลาตีนี รวมทั้งเป็นผู้เล่นคนแรกที่ทำประตู ในการแข่งขันรอบสุดท้ายได้ครบ5สมัย และยังถือเป็นผู้เล่นโปรตุเกส ที่มีอายุมากที่สุดที่ทำประตูให้กับทีมชาติได้
แต่โปรตุเกสไม่สามารถป้องกันแชมป์ได้ โดยแพ้เบลเยียม0–1 ในรอบ16ทีมสุดท้าย แต่โรนัลโดยังเป็นผู้เล่นที่ทำประตูสูงสุด (5 ประตู) ได้รับรางวัลรองเท้าทองคำ ในวันที่1กันยายน ค.ศ.2021 คริสเตียโนโรนัลโด ได้สร้างประวัติศาสตร์เป็นผู้เล่นชาย ที่ทำประตูในเกมทีมชาติได้มากที่สุดตลอดกาล เมื่อเขาทำสองประตูซึ่งเป็นประตูที่110และ111 ได้ในนัดที่โปรตุเกสเอาชนะไอร์แลนด์2–1
ในการแข่งขันฟุตบอลโลก2022 รอบคัดเลือก ตำนานกองหน้าหมายเลข7ทัพผีแดง ทำสถิติแซงหน้า อาลี ดาอี ที่ทำไว้109ประตู ต่อมาในวันที่9ตุลาคม ค.ศ.2021 โรนัลโดทำได้หนึ่งประตูในนัดกระชับมิตร ที่โปรตุเกสชนะกาตาร์3–0 และทำสถิติเป็นผู้เล่นชายจากยุโรป ที่ลงสนามให้ทีมชาติมากที่สุดจำนวน181นัด
แซงหน้าเซร์ฆิโอ ราโมสที่ลงสนามให้สเปน180นัด สุดยอดดาวยิงระดับตำนานของทัพปีศาจแดงแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด และในวันที่12ตุลาคม ค.ศ.2021 โรนัลโดทำแฮตทริกได้อีกครั้ง คริสเตียโนโรนัลโด ในนัดที่โปรตุเกสเปิดบ้านชนะลักเซมเบิร์ก5–0 ในฟุตบอลบอลโลกรอบคัดเลือก ทำสถิติเป็นผู้เล่นชายที่ทำแฮตทริก ในนามทีมชาติได้มากที่สุดจำนวน10ครั้ง