บ๊อบบี้ชาร์ลตัน วันนี้จะพามารู้จักกับ หนึ่งในนักเตะที่รอดชีวิต จากเหตุโศกนาฏกรรมมิวนิก
บ๊อบบี้ชาร์ลตัน ถ้าจะเอ่ยถึงยอดนักเตะของ เมืองผู้ดีซักคนหลายๆคนคงนึกถึง บ็อบบี้ มัวร์, เจฟฟ์ เฮิร์ทส์,กอร์ดอน แบงค์ ฯลฯ ซึ่งนักเตะเหล่านี้ล้วนเป็น ยอดนักเตะในตำนานของ ทีมชาติอังกฤษ แต่ยังมีอีกคนหนึ่งที่ถือว่าเป็นต้นแบบ ของวงการลูกหนังอังกฤษ ในยุคสุดยอดนั่นก็คือ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน ยอดนักเตะของเมืองผู้ดี ของทีมปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด และทีมชาติอังกฤษ รวมอยู่ด้วย แม้ว่ากาลเวลาจะผ่าน มานานแค่ไหนคนทั่วโลกก็ยังจดจำ
การเล่นอันยอดเยี่ยมของ ยอดนักเตะในตำนานของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด บ๊อบบี้ชาร์ลตัน ตลอดไปอย่างแน่นอน เขาเป็นหนึ่งในนักเตะที่รอดชีวิต จากเหตุโศกนาฏกรรมมิวนิก เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1958 พร้อมกับ เซอร์แมตต์ บัสบี้ ผู้จัดการทีม และทีมงานสตาฟฟ์อีกหลายชีวิต หลังจากนั้นอีก 8 ปีก็สามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก ได้สำเร็จใน ค.ศ.1968 เขาสามารถคว้าแชมป์ยูโรเปี้ยนคัพ ร่วมกับเพื่อนร่วมทีมแมนฯยูไนเต็ด ดูบอลออนไลน์
มาดูถึงประวัติของ บ๊อบบี้ชาร์ลตัน ว่ามีความเป็นมาอย่างไรบ้าง? ไปดูพร้อมๆกันเลย
บ๊อบบี้ชาร์ลตันเกิดเมื่อวันที่ 11 ต.ค. 1937 ที่แอชิงตัน ซึ่งช่วงนั้นฟุตบอลกำลังบูม อย่างมากในอังกฤษ และชาร์ลตัน ยอดนักเตะของเมืองผู้ดี ที่หลงใหลในกลิ่นสาบลูกหนังก็หมั่นฝึกฝน และได้เข้าฝึกฝนทักษะ ด้านลูกหนังที่โรงเรียน อีสต์ นอร์ธัมเบอร์แลนด์ ที่นี่เองที่ชาร์ลตันสามารถ ฝึกปรือเชิงลูกหนังได้อย่างเต็มที่ ด้วยความสามารถที่เกินวัย ชาร์ลตัน ก็สามารถได้เป็นตัวแทน ของโรงเรียนไปแข่งขันฟุตบอล รายการต่างๆและลีลา ความสามารถที่สูงตั้งแต่เด็ก
ทำให้เขาเป็นที่ต้องตาของ กุนซือคนเก่งของแมนฯยูไนเต็ด อย่าง แมตต์บัสบี้ หลังจากนั้น บ๊อบบี้ ชาร์ลตัน ยอดนักเตะในตำนานของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ก็ได้เซ็นสัญญาเป็นนักเตะฝึกหัด ของทีมปิศาจแดง ด้วยวัยเพียง 15 ปี ซึ่งตอนนั้นแมตต์ บัสบี้ กำลังสร้างรากฐานจาก เยาวชนเพื่อครองความยิ่งใหญ่ โดยใช้สโลแกนในตอนนั้นว่า “บัสบี้ เบ็บส์ ” หรือเด็กๆของบัสบี้ หลังจากนั้นเพียง 3 ปี เขาก็ได้กลายขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ ของทีมแมนฯยูไนเต็ด
และได้ลงสนามนัดแรก ก็เอาชนะใจของแมตต์บัสบี้ได้สำเร็จ ด้วยการยิง 2 ประตูชนะ บ๊อบบี้ชาร์ลตัน ไป 4-2 และปีนั้นชื่อของ บ๊อบบี้ ชาร์ลตัน ยอดนักเตะของเมืองผู้ดี เริ่มเป็นที่จับตามองมากขึ้น หลังจากช่วยพาทีมครองแชมป์ ดิวิชั่นหนึ่งของอังกฤษได้สำเร็จ ปีต่อมาเขาได้ลงเล่น ถ้วยใบใหญ่สุดของยุโรปอย่าง ยูโรเปี้ยนส์คัพ ซึ่งเขาก็สามารถพาทีม ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ ซึ่งตอนนั้นนัดชิงจัดขึ้นที่ สนามเวมบลีย์
แต่ก็เกิดเหตุการณ์อันสลดขึ้น เมื่อทีมต้องไปแข่งขันรอบตัดเชือกที่ มิวนิคตอนขากลับเครื่องบินเกิดเหตุขัดข้อง จนเกิดอุบัติเหตุทำให้นักเตะ ทีมแมนฯยูไนเต็ด ต้องเสียชีวิตถึง 23 คนแต่ บ๊อบบี้ชาร์ลตัน ยอดนักเตะในตำนานของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ถือว่าดวงแข็งมาก กลับรอดชีวิตมาอย่างปาฎิหาริย์ แบบไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆเลย เหตุการณ์ครั้งนั้นเกิดเมื่อวันที่ 6 ก.พ. 1958 เวลา 15.04 น. กองกลางหมายเลข7ปีศาจแดง
ผลงานอันโดดเด่นของบ๊อบบี้ชาร์ลตัน จนถูกเรียกตัวเข้าสู่ ทีมชาติอังกฤษ
หลังจากนั้น ชาร์ลตันก็ยังอยู่กับยูไนเต็ด ภายใต้การนำทีมของแมตต์บัสบี้ แต่ฟอร์มการเล่นของชาร์ลตัน ยอดนักเตะในตำนานของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ก็ยังโดดเด่นจนทีมชาติอังกฤษ เรียกเข้าสู่ทีมเมื่อปี 1958 ภายใต้การทำทีมของ วอลเตอร์ วินเตอร์บอททอม ชาร์ลตันเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับ และปีนั้นอังกฤษ ได้ไปฟุตบอลโลกที่สวีเดนแต่แล้ว อังกฤษก็ไม่ประสบความสำเร็จ ตกรอบแรกอย่างรวดเร็ว และชาร์ลตันเองก็ไม่มีส่วนร่วม ในการแข่งขันครั้งนั้นเลย
ซึ่งหลังจากนั้น วอลเตอร์ ออกมายอมรับว่า เขาเสียดายที่ไม่ให้โอกาส ชาร์ลตันลงสนาม 4 ปีต่อมาเขายังเป็น กำลังสำคัญของทีมชาติอังกฤษ ลุยฟุตบอลโลก แต่ทีมของเขาก็จบแค่รอบ 8 ทีมสุดท้าย ต่อจากนั้นชาร์ลตัน ยอดนักเตะของเมืองผู้ดี กลับมาประสบความสำเร็จ กับปิศาจแดงต่อด้วยการ กวาดแชมป์ดิวิชั่นหนึ่ง ในปี 1965.1967 และแชมป์เอฟเอคัพ ปี 1963 หลังจากที่บัสบี้ได้สร้างทีมใหม่ขึ้นมา
โดยการนำของชาร์ลตัน เดนิส ลอว์ และ จอร์จ เบสต์ ทำให้ทีมปีศาจแดง กลายเป็นทีมเล่นได้สุดยอด ในยุคนั้นและความสำเร็จของสโมสร นี่เองทำให้ เขาลงทำศึกฟุตบอลโลกปี 1966 ที่อังกฤษเป็นเจ้าภาพ ด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม และมีขุนพลเอกจากสโมสรชั้นนำ ทำให้ปีนั้นอังกฤษประสบความสำเร็จ สูงสุดด้วยการคว้าแชมป์โลก เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ด้วยการชนะเยอรมันตะวันตก 4-2
ซึ่งผลงานการเล่นของชาร์ลตัน ยอดนักเตะของเมืองผู้ดี โดดเด่นมากในปีนั้นและปี 1968 เขาก็สามารถนำทีมปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ยูโรเปี้ยนส์คัพ เป็นครั้งแรก ยอดนักเตะในตำนานของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด และเป็นทีมแรกจากอังกฤษอีกด้วย ที่ได้แชมป์ใบโตของยุโรป
ในปี 1974 ตัดสินใจแขวนสตั๊ด
เขายังวนเวียนกลับการ เล่นฟุตบอลจนกระทั่งในปี 1974 เขาตัดสินใจแขวนสตั๊ด และหันไปทำธุรกิจ โรงเรียนสอนฟุตอล ต่อมาเมื่อปี 1984 ทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ได้เชิญเขาเข้ามาเป็น ผู้อำนวยการสโมสร ยอดนักเตะในตำนานของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด และได้รับเกียรติให้เป็นบอร์ดของฟีฟ่า อีกทั้งอังกฤษยังแต่งตั้ง ให้ชาร์ลตันเป็นทูตกีฬา เดินทางไปทั่วโลกเพื่อเผยแพร่เกมลูกหนัง ความภาคภูมิใจอีกอย่างหนึ่งของชาร์ลตัน
ก็คือ การได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์ เป็น เซอร์ บ๊อบบี้ชาร์ลตัน จากพระราชวังบักกิ้งแฮม หลังจากสร้าชื่อเสียงให้กับสโมสร และประเทศชาติมายาวนาน นับว่าชาร์ลตัน ยอดนักเตะของเมืองผู้ดี คือนักเตะแม่แบบของนักเตะอังกฤษ ขนานแท้เลยก็ว่าได้ แม้ว่าการเวลาจะผ่านมานานแค่ไหน คนทั่วโลกก็ยังจดจำ การเล่นอันยอดเยี่ยมของ ยอดนักเตะเมืองผู้ดีอย่าง บ็อบบี้ชาร์ลตัน ตลอดไปอย่างแน่นอน
บ๊อบบี้ชาร์ลตันถูกตรวจพบ เป็นโรคความจำเสื่อม
เซอร์ บ๊อบบี้ชาร์ลตัน ยอดนักเตะในตำนานของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด นักฟุตบอลที่ได้รับการยกย่องว่า ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ของประเทศอังกฤษและทีม ‘ปีศาจแดง’ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่า มีอาการของโรคความจำเสื่อม อาการป่วยของตำนาน ตลอดกาลของอังกฤษในวัย 83 ปี ได้รับการเปิดเผยเป็นครั้งแรกจาก เลดี้ นอร์มา ชาร์ลตัน
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ ยอดนักเตะของเมืองผู้ดี สังคมตระหนักถึงโรคความจำเสื่อม ที่มีส่วนคร่าชีวิตของนักฟุตบอล ในระดับตำนานหลายคนรวมถึง น็อบบี้ สไตล์ส อดีตขุนพลทีมชาติอังกฤษ ชุดแชมป์โลก ปี 1966 ที่เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อและแจ็ค ชาร์ลตัน พี่ชายของเซอร์ บ็อบบี้ ที่เพิ่งเสียชีวิตในวัย 85 ปี ด้วยโรคความจำเสื่อม และโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง