ตำนานหมายเลข 7 แมนยู : เส้นทางสู่ความสำเร็จ
ตำนานหมายเลข 7 แมนยู ของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเป็นหมายเลขเสื้อที่มีชื่อเสียงและทรงเกียรติมากที่สุดหมายเลขหนึ่งในโลกฟุตบอล ตลอดประวัติศาสตร์ของสโมสร ผู้เล่นที่มีชื่อเสียงหลายคนได้สวมเสื้อหมายเลขนี้ และพวกเขาต่างก็ประสบความสำเร็จอย่างสูง
หมายเลข 7 ของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดถูกมอบให้กับผู้เล่นที่โดดเด่นที่สุดของสโมสร ผู้เล่นเหล่านี้มักเป็นผู้เล่นที่มีทักษะและความสามารถพิเศษ พวกเขามักเป็นผู้นำของทีม และพวกเขามักมีส่วนสำคัญในการคว้าแชมป์ให้กับสโมสร
ประวัติความเป็นมาของหมายเลข 7 แมนยู
หมายเลข 7 ของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดถูกสวมใส่ครั้งแรกโดย จอร์จ เบสต์ ตำนานนักเตะชาวไอร์แลนด์เหนือที่เล่นให้กับสโมสรในช่วงทศวรรษ 1960 และ 1970 เบสต์เป็นผู้เล่นที่เก่งกาจและน่าตื่นเต้นคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ฟุตบอล เขามีทักษะที่น่าตื่นตาตื่นใจและความสามารถในการทำประตูที่ไม่มีใครเทียบได้ เบสต์ช่วยให้แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดคว้าแชมป์ลีกสูงสุด 2 สมัยและเอฟเอคัพ 1 สมัย
ผู้เล่นที่มีชื่อเสียงที่สวมเสื้อหมายเลข 7 เชสเตอร์ยูไนเต็ด ได้แก่
- จอร์จ เบสต์ (1963-1974)
- ไบรอัน ร็อบสัน (1981-1994)
- เอริก คันโตนา (1992-1997)
- เดวิด เบ็คแฮม (1992-2003)
- คริสเตียโน โรนัลโด (2003-2009, 2021-ปัจจุบัน)
ผู้เล่นเหล่านี้ล้วนเป็นผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่และประสบความสำเร็จอย่างสูง พวกเขามีส่วนสำคัญในการทำให้แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเป็นสโมสรที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลกฟุตบอล
จอร์จ เบสต์ ตํานานหมายเลข 7 แมนยู คนแรก
จอร์จ เบสต์ เกิดเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 1946 ในเมืองเบลฟัสต์ ประเทศไอร์แลนด์เหนือ เขาเป็นนักเตะชาวไอร์แลนด์เหนือที่เล่นให้กับสโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในช่วงทศวรรษ 1960 และ 1970 เบสต์ได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล
เบสต์เริ่มเล่นฟุตบอลให้กับสโมสรบ้านเกิดของเขาคือ ลินฟีลด์ ในปี 1963 เขาย้ายไปแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในปี 1963 ในวัยเพียง 17 ปี เขากลายเป็นผู้เล่นคนแรกที่สวมเสื้อหมายเลข 7 ของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
เบสต์โดดเด่นในสนามด้วยทักษะที่น่าตื่นตาตื่นใจและความสามารถในการทำประตูที่ไม่มีใครเทียบได้ เขาเป็นผู้เล่นที่เก่งกาจและน่าตื่นเต้น เขาสามารถเลี้ยงบอลหลบคู่แข่งได้อย่างง่ายดาย และเขามีความสามารถในการยิงประตูจากทุกมุมของสนาม
เบสต์ช่วยให้แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดคว้าแชมป์ลีกสูงสุด 2 สมัยและเอฟเอคัพ 1 สมัย เขาได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมนักข่าวอังกฤษ 3 สมัย และเขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลบัลลงดอร์ 4 สมัย
เบสต์ออกจากแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในปี 1974 เขาเล่นให้กับสโมสรอื่น ๆ อีกหลายแห่ง รวมถึงฮัลล์ซิตี, ซานอันโตนิโอ สควอดรอน และนิวยอร์ก คอสมอส เขาแขวนสตั๊ดในปี 1984
เบสต์เสียชีวิตเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2005 ด้วยวัย 59 ปี เขาได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล และเขายังคงเป็นตำนานของสโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
ผลงานของเบสต์กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
- ลงเล่น 470 นัด
- ยิงประตู 179 ประตู
- คว้าแชมป์ลีกสูงสุด 2 สมัย (1965, 1967)
- คว้าแชมป์เอฟเอคัพ 1 สมัย (1968)
- คว้าแชมป์ยูโรเปี้ยนคัพวินเนอร์สคัพ 1 สมัย (1968)
- ได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมนักข่าวอังกฤษ 3 สมัย (1968, 1971, 1972)
- ได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสหพันธ์ฟุตบอลอังกฤษ 1 สมัย (1968)
- ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลบัลลงดอร์ 4 สมัย (1968, 1971, 1972, 1973)
คำกล่าวของเบสต์เกี่ยวกับหมายเลข 7 ของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
“หมายเลข 7 ของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเป็นหมายเลขที่พิเศษมาก มันไม่ใช่แค่หมายเลขเสื้อ มันคือสัญลักษณ์ของสโมสรและแฟน ๆ มันเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้สวมหมายเลขนี้”
“ฉันรู้ว่าฉันไม่สามารถสวมหมายเลข 7 ของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดได้อีกต่อไป แต่ฉันหวังว่าผู้เล่นคนต่อไปที่จะสวมหมายเลขนี้จะเป็นผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่และประสบความสำเร็จอย่างสูง”
ไบรอัน ร็อบสัน: ตำนานหมายเลข 7 แมนยู ผู้เล่นที่สมบูรณ์แบบ
ไบรอัน ร็อบสัน เกิดเมื่อวันที่ 21 มกราคม 1957 ในเมืองเบอร์ลี ประเทศอังกฤษ เขาเป็นนักเตะชาวอังกฤษที่เล่นให้กับสโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในช่วงทศวรรษ 1980 และ 1990 ร็อบสันได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล
ร็อบสันเริ่มเล่นฟุตบอลให้กับสโมสรบ้านเกิดของเขาคือ เวสต์บรอมวิช อัลเบียน ในปี 1972 เขาย้ายไปแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในปี 1981 ในวัยเพียง 24 ปี เขาสวมเสื้อหมายเลข 7 ของสโมสรแทนที่จอร์จ เบสต์ ร็อบสันโดดเด่นในสนามด้วยทักษะที่สมบูรณ์แบบและความสามารถในการเล่นทุกตำแหน่งในสนาม เขาสามารถเล่นได้ทั้งกองกลางตัวกลาง
กองกลางตัวรุก กองหน้าตัวกลาง และปีก เขามีทักษะการเลี้ยงบอลที่ยอดเยี่ยม เขาสามารถเลี้ยงบอลหลบคู่แข่งได้อย่างง่ายดาย และเขามีความสามารถในการจ่ายบอลและยิงประตูที่แม่นยำ
ร็อบสันช่วยให้แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดคว้าแชมป์ลีกสูงสุด 3 สมัย
- เอฟเอคัพ 2 สมัย
- ลีกคัพ 2 สมัย
- ยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ 1 สมัย
- ยูฟ่าคัพ 1 สมัย
เขาได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมนักข่าวอังกฤษ 2 สมัย และเขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลบัลลงดอร์ 1 สมัย
ร็อบสันออกจากแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในปี 1994 เขาเล่นให้กับสโมสรอื่น ๆ อีกหลายแห่ง รวมถึงโบลตัน วันเดอเรอส์, สต็อคพอร์ต คาแนลส์ และควีนส์พาร์ค เรนเจอร์ส
เขาแขวนสตั๊ดในปี 2001 ร็อบสันเสียชีวิตเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2011 ด้วยวัย 54 ปี เขาได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล และเขายังคงเป็นตำนานของสโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
ผลงานของร็อบสันกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
- ลงเล่น 466 นัด
- ยิงประตู 127 ประตู
- คว้าแชมป์ลีกสูงสุด 3 สมัย (1985, 1986, 1993)
- คว้าแชมป์เอฟเอคัพ 2 สมัย (1985, 1990)
- คว้าแชมป์ลีกคัพ 2 สมัย (1990, 1994)
- คว้าแชมป์ยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ 1 สมัย (1991)
- คว้าแชมป์ยูฟ่าคัพ 1 สมัย (1991)
- ได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมนักข่าวอังกฤษ 2 สมัย (1985, 1990)
- ได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสหพันธ์ฟุตบอลอังกฤษ 1 สมัย (1985)
- ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลบัลลงดอร์ 1 สมัย (1985)
คำกล่าวของร็อบสันเกี่ยวกับหมายเลข 7 ของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
“หมายเลข 7 ของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเป็นหมายเลขที่พิเศษมาก มันไม่ใช่แค่หมายเลขเสื้อ มันคือสัญลักษณ์ของสโมสรและแฟน ๆ มันเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้สวมหมายเลขนี้”
“ผมพยายามอย่างเต็มที่เพื่อตอบแทนความไว้วางใจของสโมสรและแฟน ๆ ผมภูมิใจที่ได้สวมเสื้อหมายเลข 7 ของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด”
เหตุผลที่ร็อบสันได้รับการขนานนามว่าเป็นผู้เล่นที่สมบูรณ์แบบ
ร็อบสันได้รับการขนานนามว่าเป็นผู้เล่นที่สมบูรณ์แบบเพราะเขามีคุณสมบัติทั้งหมดของผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ เขามีทักษะที่สมบูรณ์แบบ เขาสามารถเล่นได้ทุกตำแหน่งในสนาม เขามีความสามารถในการจ่ายบอลและยิงประตูที่แม่นยำ และเขายังมีความเป็นผู้นำและจิตวิญญาณการต่อสู้ที่แข็งแกร่ง
ร็อบสันเป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมในทุกด้านของเกม เขาสามารถสร้างสรรค์โอกาสให้กับเพื่อนร่วมทีมได้ เขาสามารถยิงประตูได้ด้วยตัวเอง และเขาสามารถคุมเกมให้อยู่ในการควบคุมได้ เขาเป็นผู้เล่นที่สมบูรณ์แบบในทุกด้านของเกม
เอริก คันโตนา: ตำนานหมายเลข 7 แมนยู
เอริก คันโตนา เกิดเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 1969 ในเมืองมาร์แซย์ ประเทศฝรั่งเศส เขาเป็นนักเตะชาวฝรั่งเศสที่เล่นให้กับสโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในช่วงทศวรรษ 1990 คันโตนาได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล
คันโตนาเริ่มเล่นฟุตบอลให้กับสโมสรบ้านเกิดของเขาคือ โอลิมปิก มาร์กเซย ในปี 1983 เขาย้ายไปสโมสรอื่น ๆ อีกหลายแห่ง รวมถึงน็องต์, ลีลล์ และบอร์กโดซ์ ก่อนที่จะย้ายไปแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในปี 1992
คันโตนาโดดเด่นในสนามด้วยทักษะที่ยอดเยี่ยมและบุคลิกที่โดดเด่น เขามีทักษะการเลี้ยงบอลที่ยอดเยี่ยม เขาสามารถเลี้ยงบอลหลบคู่แข่งได้อย่างง่ายดาย และเขามีความสามารถในการจ่ายบอลและยิงประตูที่แม่นยำ เขายังมีบุคลิกที่โดดเด่น เขาเป็นผู้นำที่แข็งแกร่งและเขามักจะมีการแสดงที่โดดเด่น
คันโตนาช่วยให้แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดคว้าแชมป์ลีกสูงสุด 4 สมัย, เอฟเอคัพ 2 สมัย และลีกคัพ 1 สมัย เขาได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 4 สมัย และเขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลบัลลงดอร์ 1 สมัย
คันโตนาออกจากแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในปี 1997 เขาเล่นให้กับสโมสรอื่น ๆ อีกหลายแห่ง รวมถึงลีลล์, บอร์กโดซ์, เซลติก และอัล-โอเอห์ดา เขาแขวนสตั๊ดในปี 2001
คันโตนาได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล เขาเป็นผู้เล่นที่มีทักษะและความสามารถพิเศษ เขาเป็นผู้นำที่แข็งแกร่ง และเขามีบุคลิกที่โดดเด่น เขามีส่วนสำคัญในการทำให้แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเป็นสโมสรที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลกฟุตบอล
ผลงานของคันโตนากับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
- ลงเล่น 185 นัด
- ยิงประตู 82 ประตู
- คว้าแชมป์ลีกสูงสุด 4 สมัย (1993, 1994, 1996, 1997)
- คว้าแชมป์เอฟเอคัพ 2 สมัย (1994, 1996)
- คว้าแชมป์ลีกคัพ 1 สมัย (1996)
- ได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 4 สมัย (1993, 1994, 1996, 1997)
- ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลบัลลงดอร์ 1 สมัย (1993)
คำกล่าวของคันโตนาเกี่ยวกับหมายเลข 7 ของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
“หมายเลข 7 ของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเป็นหมายเลขที่พิเศษมาก มันไม่ใช่แค่หมายเลขเสื้อ มันคือสัญลักษณ์ของสโมสรและแฟน ๆ มันเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้สวมหมายเลขนี้”
“ผมพยายามอย่างเต็มที่เพื่อตอบแทนความไว้วางใจของสโมสรและแฟน ๆ ผมภูมิใจที่ได้สวมเสื้อหมายเลข 7 ของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด”
เหตุผลที่คันโตนาได้รับการขนานนามว่าเป็นตำนาน
คันโตนาได้รับการขนานนามว่าเป็นตำนานเพราะเขามีคุณสมบัติทั้งหมดของผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ เขามีทักษะที่ยอดเยี่ยม เขาเป็นผู้นำที่แข็งแกร่ง และเขามีบุคลิกที่โดดเด่น
คันโตนาเป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมในทุกด้านของเกม เขาสามารถสร้างสรรค์โอกาสให้กับเพื่อนร่วมทีมได้ เขาสามารถยิงประตูได้ด้วยตัวเอง และเขาสามารถคุมเกมให้อยู่ในการควบคุมได้ เขาเป็นผู้เล่นที่ไม่เหมือนใครและเขาทิ้งมรดกที่ยั่งยืนไว้ที่สโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
เดวิด เบ็คแฮม ตำนานหมายเลข 7 แมนยู
เดวิด เบ็คแฮม เกิดเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 1975 ในเมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ เขาเป็นนักเตะชาวอังกฤษที่เล่นให้กับสโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในช่วงทศวรรษ 1990 และ 2000 เบ็คแฮมได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล
เบ็คแฮมเริ่มเล่นฟุตบอลให้กับสโมสรบ้านเกิดของเขาคือ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ในปี 1992 เขาสวมเสื้อหมายเลข 7 ของสโมสรต่อจากเอริก คันโตนา
เบ็คแฮมโดดเด่นในสนามด้วยทักษะการเลี้ยงบอลที่ยอดเยี่ยมและความสามารถในการเปิดบอลที่แม่นยำ เขามีทักษะการเลี้ยงบอลที่ยอดเยี่ยม เขาสามารถเลี้ยงบอลหลบคู่แข่งได้อย่างง่ายดาย และเขามีความสามารถในการจ่ายบอลและยิงประตูที่แม่นยำ เขายังมีความสามารถในการเปิดบอลที่แม่นยำ เขาสามารถเปิดบอลให้เพื่อนร่วมทีมทำประตูได้หลายครั้ง
เบ็คแฮมช่วยให้แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดคว้าแชมป์ลีกสูงสุด 6 สมัย
- เอฟเอคัพ 2 สมัย
- ลีกคัพ 2 สมัย
- ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 1 สมัย,
- ยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ 1 สมัย
- ยูฟ่าซูเปอร์คัพ 1 สมัย
เขาได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมนักข่าวอังกฤษ 1 สมัย และเขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลบัลลงดอร์ 1 สมัย
เบ็คแฮมออกจากแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในปี 2003 เขาเล่นให้กับสโมสรอื่น ๆ อีกหลายแห่ง รวมถึงเรอัลมาดริด, เอซีมิลาน, ปารีสแซงต์แชร์กแมง และลอสแองเจลิส แกแลกซี เขาแขวนสตั๊ดในปี 2013
เบ็คแฮมได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล เขาเป็นผู้เล่นที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมทั่วโลก เขามีส่วนสำคัญในการทำให้แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเป็นสโมสรที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลกฟุตบอล
ผลงานของเบ็คแฮมกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
- ลงเล่น 392 นัด
- ยิงประตู 85 ประตู
- คว้าแชมป์ลีกสูงสุด 6 สมัย (1993, 1994, 1996, 1997, 1999, 2000)
- คว้าแชมป์เอฟเอคัพ 2 สมัย (1994, 1996)
- คว้าแชมป์ลีกคัพ 2 สมัย (1996, 2000)
- คว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 1 สมัย (1999)
- คว้าแชมป์ยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ 1 สมัย (1991)
- คว้าแชมป์ยูฟ่าซูเปอร์คัพ 1 สมัย (1991)
- ได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมนักข่าวอังกฤษ 1 สมัย (1997)
- ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลบัลลงดอร์ 1 สมัย (1999)
คำกล่าวของเบ็คแฮมเกี่ยวกับหมายเลข 7 ของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
“หมายเลข 7 ของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเป็นหมายเลขที่พิเศษมาก มันไม่ใช่แค่หมายเลขเสื้อ มันคือสัญลักษณ์ของสโมสรและแฟน ๆ มันเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้สวมหมายเลขนี้”
“ผมพยายามอย่างเต็มที่เพื่อตอบแทนความไว้วางใจของสโมสรและแฟน ๆ ผมภูมิใจที่ได้สวมเสื้อหมายเลข 7 ของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด”
เหตุผลที่เบ็คแฮมได้รับการขนานนามว่าเป็นตำนาน
เบ็คแฮมได้รับการขนานนามว่าเป็นตำนานเพราะเขามีคุณสมบัติทั้งหมดของผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ เขามีทักษะที่ยอดเยี่ยม เขาเป็นผู้นำที่แข็งแกร่ง และเขามีบุคลิกที่โดดเด่น
เบ็คแฮมเป็นผู้เล่นที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมทั่วโลก เขามีส่วนสำคัญในการทำให้แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเป็นสโมสรที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลกฟุตบอล
คริสเตียโน โรนัลโด ตำนานเบอร์ 7 ที่โลกต้องจดจำ
คริสเตียโน โรนัลโด ผู้เล่นแมนยู เบอร์ 7 นั้น สื่ออังกฤษหลายสำนักรายงานว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังพิจารณาที่จะมอบเสื้อหมายเลข 7 ในตำนานของสโมสรให้กับอเลฮานโดร การ์นาโช ดาวรุ่งวัย 19 ปี ทีมชาติอาร์เจนตินา แทนที่โรนัลโด ที่ย้ายออกจากทีมไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว
คริสเตียโน โรนัลโด เป็นหนึ่งในนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล
ขาเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เขาสวมเสื้อหมายเลข 7 ให้กับสโมสรเป็นเวลา 6 ฤดูกาล ในช่วงระหว่างปี 2003-2009 และ 2021-2022 เขาได้สร้างผลงานอันโดดเด่นให้กับสโมสร โดยทำไป 118 ประตูและ 69 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 292 นัดในทุกรายการ
โรนัลโด ช่วยให้แมนยูฯ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 3 สมัย
- ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 1 สมัย
- เอฟเอ คัพ 1 สมัย
- ลีกคัพ 1 สมัย
เขายังได้รับรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4 สมัย และได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของพรีเมียร์ลีก 1 สมัย
โรนัลโด เป็นหนึ่งในนักเตะที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก และเขามีแฟนบอลมากมายทั่วโลก เขาเป็นที่รู้จักในด้านทักษะที่ยอดเยี่ยม ความแข็งแกร่ง และความเป็นผู้นำ เขาเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักเตะทั่วโลก และเขาเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล
โรนัลโด้ยิงทั้งหมดกี่ประตู ให้แมนยู 145 ประตู 346 นัด
อังโตนี มาเตวส์ ดุส ซังตุส หรือที่รู้จักกันในชื่อ แอนโทนี่ซานโตสทีมชาติบราซิลค่ายปิศาจแดง เป็นนักฟุตบอลอาชีพชาวบราซิล ปัจจุบันเล่นในตำแหน่งปีกขวาให้กับสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในพรีเมียร์ลีก และทีมชาติบราซิล อังโตนี เกิดเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2000 ที่เมืองโอซาสกู รัฐเซาเปาลู ประเทศบราซิล เขาเริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลกับสโมสรฟุตบอลเซาเปาโลในปี ค.ศ. 2018 โดยลงเล่นให้กับทีมสำรองและทีมชุดใหญ่ ในปี ค.ศ. 2019 อังโตนี ช่วยให้สโมสรเซาเปาโลคว้าแชมป์กังเปโอนาตูเปาลิสตา และได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2020 อังโตนี ย้ายไปร่วมทีมอาเอฟเซ อายักซ์ในเนเธอร์แลนด์ ด้วยค่าตัวประมาณ 15 ล้านยูโร อังโตนี ประสบความสำเร็จอย่างมากกับอาเอฟเซ อายักซ์ โดยลงเล่นไป 105 นัด ยิงได้ 22 ประตู และช่วยให้ทีมคว้าแชมป์เอเรอดีวีซี 3 สมัย, KNVB Cup 1 สมัย และยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกรองชนะเลิศ 1 สมัย
ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2022 อังโตนี ย้ายไปร่วมทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดด้วยค่าตัวประมาณ 50 ล้านยูโร อังโตนี เป็นผู้เล่นที่มีความเร็ว ความแข็งแกร่ง และทักษะการเลี้ยงบอลที่ยอดเยี่ยม เขาสามารถเล่นได้ทั้งปีกขวาและปีกซ้าย อังโตนี ยังได้รับการยกย่องว่ามีพรสวรรค์ในการสร้างสรรค์โอกาสและยิงประตู อังโตนี ได้รับการเรียกติดทีมชาติบราซิลครั้งแรกในปี ค.ศ. 2022 และลงเล่นให้กับทีมชาติไปแล้ว 12 นัด ยิงได้ 2 ประตู อังโตนี เป็นผู้เล่นดาวรุ่งที่มีอนาคตไกล เขามีศักยภาพที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นระดับแนวหน้าของโลก
ติดตาม ข่าวแมนยูล่าสุด ได้ที่นี่
สามารถ ดูบอลออนไลน์ ได้สบายๆ แล้ว