โอเล่กุนนาร์โซลชา วันนี้จะพามารู้จักกับ สุดยอดตำนานกองหน้าsupersub เจ้าของฉายาเพชฌฆาตหน้าทารก
โอเล่กุนนาร์โซลชา กองหน้าสุดยอดตำนานซุเปอร์ซับของทัพปีศาจแดง เป็นนักฟุตบอลชาวนอร์เวย์ เคยเป็นกองหน้าของสโมสรฟุตบอล แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด และเจ้าของฉายาเพชฌฆาตหน้าทารก และเป็นสุดยอดตำนานซุเปอร์ซับ (supersub) ตัวสำรองพลิกเกม เคยเป็นผู้จัดการทีมสโมสรฟุตบอลคาร์ดิฟฟ์ซิตี และม็อลเดอในฟุตบอลลีกของ ประเทศนอร์เวย์ เคยเป็นผู้จัดการทีมของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดต่อจาก โชเซ มูรีนโย
โอเล่กุนนาร์โซลชา เจ้าของฉายาเพชฌฆาตหน้าทารก ได้ถือกำเนิดขึ้นมาในเมืองคริสเตียนซุนด์ ประเทศนอร์เวย์ เมื่อวันที่26กุมภาพันธ์1973 โดยเขาเริ่มเส้นทางสายลูกหนัง จากการเล่นฟุตบอลเป็นงานอดิเรก กับทีมเคลาเซเนนเก้น ทีมระดับดิวิชั่น3ของนอร์เวย์ ก่อนที่เขาจะย้ายไปเล่นให้กับ โมลด์ ทีมในลีกสูงสุดของประเทศ ในปี1995 ต่อมาในวัย22ปี เขาถูกทีมชาตินอร์เวย์เรียกตัวติดทีมชุดใหญ่ พร้อมกับถูกกล่าวขานว่าเป็น “อลันเชียร์เรอร์ แห่งนอร์เวย์” ของยุคนั้น ดูบอลออนไลน์
มาดูถึงประวัติของ โอเล่กุนนาร์โซลชา ว่ามีความเป็นมาอย่างไรบ้าง? ก่อนจะมาประสบความสำเร็จ กับทัพปีศาจแดง
ในปี1996 หลังจากที่เขาลงสนามให้ โมลด์ ไป 45นัดและยิงไปถึง 33ประตู เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือของปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเวลานั้นก็ไม่รอช้า จัดการคว้าตัวเด็กหนุ่มวัย 23ปีรายนี้ ไปร่วมทีมทันทีด้วยมูลค่า 1.5 ล้านปอนด์ ซึ่งโอเล่ เจ้าของฉายาเพชฌฆาตหน้าทารก ก็ไม่ทำให้นายใหญ่ชาวสก๊อตต์ต้องผิดหวัง สามารถระเบิดฟอร์มเก่งได้ ตั้งแต่ซีซั่นแรกในสีเสื้อยูไนเต็ด
หลังยิงไปถึง19ประตู จากการลงสนาม46นัดรวมทุกรายการ ครองตำแหน่งดาวซัลโวของทีม พร้อมพาต้นสังกัดคว้า แชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาล1996/97 ได้สำเร็จ ถือเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยม และสามารถครองใจแฟนบอลยูไนเต็ดได้ พร้อมกับได้รับฉายาว่า “เพชฌฆาตหน้าทารก” แต่แล้วในซีซั่น1998/99 แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ตัดสินใจนำเข้าศูนย์หน้าคนใหม่ เข้ามาในทีมนั่นคือ ดไวท์ ยอร์ค
ทำให้ โอเล่กุนนาร์โซลชา ต้องถูกกดดันอย่างหนัก เนื่องจากฟอร์มการเล่นในตอนนั้น ไม่คงเส้นคงวาจนทำให้เขา กลายเป็นแค่ตัวสำรองของทีม แต่ทว่าเด็กหนุ่มจากนอร์เวย์ก็ไม่คิด จะยอมแพ้เขาตัดสินใจอยู่กับทีมต่อไป ในฐานะตำแหน่ง “ตัวสำรอง” เขายังคงมุ่งมั่นทำหน้าที่ของตัวเอง อย่างเต็มที่ทุกครั้งที่ได้รับโอกาสลงสนาม แม้จะมีเวลาให้เขาโชว์ฟอร์ม เพียงน้อยนิดในแต่ละเกมก็ตาม
จนสุดท้ายความพยายามของเขา ก็เริ่มเป็นผลเมื่อเขาสามารถลงสนาม กองหน้าสุดยอดตำนานซุเปอร์ซับของทัพปีศาจแดง ไปยิงประตูได้บ่อยครั้งในฐานะตัวสำรอง อีกทั้งยังกลายเป็นประตูชัย ในเกมสำคัญเสียด้วยอย่างเช่น ในศึกเอฟเอคัพ รอบ4 ที่เขาถูกส่งลงสนามในนาที81 ก่อนจะกลายเป็นคนยิงประตูชัยให้ ปีศาจแดงพลิกแซงชนะ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล 2-1 ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ในช่วงปลายเดือนมกราคม1999 กองกลางทีมชาติโปรตุเกสและผีแดง
การสร้างสถิติอันน่าเหลือเชื่อ ของโอเล่กุนนาร์โซลชา ให้กับวงการลูกหนังอังกฤษ
เจ้าของฉายาเพชฌฆาตหน้าทารก จากนั้นเขาก็สร้างสถิติ อันน่าเหลือเชื่อให้กับวงการ ลูกหนังอังกฤษหลังยิงได้ถึง4ประตู ภายในเวลาเพียง13นาที ในเกมที่ยูไนเต็ดบุกไปถล่ม น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ได้ถึง 8-1 ในศึกพรีเมียร์ลีก จนได้รับสมญานามจากสื่ออังกฤษว่า “สุดยอดซูเปอร์ซับ” จนมาถึงในนัดชิงชนะเลิศ ของศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก 1998/99 ที่ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ต้องพบกับ บาเยิร์น มิวนิค
โดยเชื่อว่าเกมดังกล่าว ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเพียงใด แฟนบอลยูไนเต็ดก็คงไม่ลืมเลือน เมื่อทีมของพวกเขาสามารถ สร้างปาฏิหาริย์โกงความตาย ด้วยการยิง2ประตูรวด ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ พลิกแซงชนะยอดทีมจากเยอรมนี คว้าแชมป์ ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ไปแบบสุดดราม่า พร้อมสร้างประวัติศาสตร์ กลายเป็น “ทริปเปิ้ลแชมป์” อย่างสุดยิ่งใหญ่ โดยนักเตะผู้ยิงประตูชัย ให้ทีมในนาทีสุดท้าย
ซึ่งกลายเป็นตำนานหน้าสำคัญ ของสโมสรก็คือศูนย์หน้าตัวสำรองของทีม โอเล่กุนนาร์โซลชา นั่นเองต่อมาโอเล่ก็ยังคง เดินหน้ามุ่งมั่นตั้งใจเพื่อสโมสร แต่ทว่าเขากลับเจอปัญหา อาการบาดเจ็บรบกวนอยู่บ่อยครั้ง จนทำให้เขาต้องพักเป็นเวลานาน และการกลับมาของเขาในฐานะตัวสำรอง มันก็ยิ่งชัดเจนมากกว่าด้วยวัยที่โรยรา ไปด้วยนั่นเอง ในฤดูกาล2006/07 เขากลับมาทำผลงานได้ดี หลังยิงได้11ประตู
จากการลงสนาม 32นัดในทุกรายการ ซึ่งซีซั่นนี้เองได้กลายเป็นปีสุดท้าย ในอาชีพการค้าแข้งของเขา โอเล่กุนนาร์โซลชา กองหน้าสุดยอดตำนานซุเปอร์ซับของทัพปีศาจแดง ในวัย34ปีประกาศแขวนสตั๊ด หลังคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้เป็นครั้งที่ 6 กับยูไนเต็ดปิดฉากเส้นทางการค้าแข้ง11ปี ในโรงละครแห่งความฝัน อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยการลงเล่นไป 365นัด โดยยิงไปถึง 127ประตู
เริ่มต้นเส้นทางการเป็นกุนซือ
หลังจากแขวนสตั๊ด โซลชา กองหน้าสุดยอดตำนานซุเปอร์ซับของทัพปีศาจแดง ก็เริ่มต้นเส้นทางการเป็นกุนซือทันที โดยเขาเริ่มจากการเป็น โค้ชกองหน้าให้กับปีศาจแดง ในซีซั่น2007/08 ก่อนที่เขาจะได้รับการแต่งตั้งให้เป็น ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดชุดU23 ในฤดูกาล2008/09 ซึ่งเขาก็ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการพาทีมคว้าแชมป์ได้อย่างมากมาย อาทิพรีเมียร์ลีกสำรอง1สมัย, แชมป์พรีเมียร์ลีก สำรองตอนเหนือ1สมัย, แชมป์แลนคาเชียร์ ซีเนียร์คัพ1สมัย
และแชมป์แมนเชสเตอร์ ซีเนียร์คัพ อีก1สมัย จากผลงานอันยอดเยี่ยม ทำให้ในช่วงต้นปี2011 เขาได้รับงานคุมทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรก ด้วยการรับหน้าที่เป็นผู้จัดการทีม ให้กับอดีตต้นสังกัดอย่าง โมลด์ สโมสรในลีกบ้านเกิดของเขา โดยทำยังคงสามารถทำผลงานได้อย่างดีเยี่ยม เมื่อพาทีมคว้าแชมป์ลีกสูงสุด2สมัย พร้อมทั้งแชมป์ นอร์เวย์คัพอีก1สมัย ต่อมาในปี2014
โซลชา เจ้าของฉายาเพชฌฆาตหน้าทารก ย้ายไปคุมทีมคาร์ดิฟฟ์ซิตี้ ทีมในศึกพรีเมียร์ลีกในเวลานั้น พร้อมกับภารกิจอันหนักอึ้ง คือการต้องช่วยให้ทีมรอดพ้น จากการตกชั้นในฤดูกาล2013/14 ให้ได้ทว่าสุดท้ายเขาก็ทำไม่สำเร็จ ต้องตกชั้นด้วยการเป็นทีมบ๊วยของตาราง จากนั้นหลังคาร์ดิฟฟ์หล่นลงไป เล่นในศึกเดอะแชมเปี้ยนชิพ ในซีซั่นต่อมาผลงานของพวกเขา ก็ยังคงไม่ดีนักทำให้โอเล่ ถูกปลดออกจากเก้าอี้กุนซือ ในเดือนกันยายน2014
โอเล่กุนนาร์โซลชากับจุดเปลี่ยน สำคัญที่สุดในอาชีพ
จุดเปลี่ยนสำคัญที่สุดในอาชีพของ เจ้าของฉายาเพชฌฆาตหน้าทารก ก็มาถึงในวันที่ 19ธันวาคม2018 เมื่อแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ประกาศแต่งตั้งให้โอเล่เข้ารับตำแหน่ง รักษาการณ์ผู้จัดการทีมหรือผู้จัดการทีม แบบชั่วคราวแทนที่ของ โชเซ่ มูรินโญ่ หลังจากเฮดโค้ชชาวโปรตุกีส ต้องอำลาทีมไปโดยเชื่อกันว่า ถ้าต้องการจะปลุกขนบธรรมเนียม และมนต์ขลังของสโมสรขึ้นมาอีกครั้ง ก็ต้องใช้ปีศาจเป็นคนปลุกมันขึ้นมา
การมาของโอเล่กุนนาร์โซลชา กองหน้าสุดยอดตำนานซุเปอร์ซับของทัพปีศาจแดง เรียกได้ว่าเป็นการสร้างความฮือฮา ให้กับแฟนบอลไม่น้อยโดยเขา พาทีมชนะรวดในการคุมทีม8นัดแรก โดยแบ่งเป็นพรีเมียร์ลีก 6นัด และเอฟเอคัพ 2นัด และชนะ 10 เสมอ 1 ใน 11 เกมแรก ก่อนที่เขาจะพาทีมโกงความตาย พลิกเอาชนะ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ในศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก รอบ16ทีมสุดท้าย ผ่านเข้ารอบต่อไปได้ แบบสุดดราม่า จนในที่สุดปีศาจแดงจึงทำการแต่งตั้งให้ โอเล่กุนนาร์โซลชา เป็นกุนซือแบบถาวรในวันที่ 28มีนาคม2019
พร้อมฝากสถิติสุดสวยหรู ชนะ 14 เสมอ 2 แพ้ 3 จาก19นัด ที่คุมทีมในฐานะกุนซือแบบ รักษาการณ์แต่แล้วสิ่งเหลือเชื่อ ก็เกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อหลังจากที่โซลชาได้เป็นเฮดโค้ชแมนยู แบบเต็มตัวผลงานของทีมก็กลับย่ำแย่ลง กองหน้าสุดยอดตำนานซุเปอร์ซับของทัพปีศาจแดง อย่างน่าใจหายโดย8เกมสุดท้ายในลีก พวกเขาทำได้เพียงชนะ 2 เสมอ 2 และแพ้ไปถึง 4 เกมและใน 5เกมสุดท้าย ไม่สามารถคว้าชัยได้เลยแม้แต่เกมเดียว ทำให้ยูไนเต็ดจบฤดูกาล 2018/19 ด้วยอันดับ6