แกรีพัลลิสเตอร์ วันนี้จะพามารู้จักกับ อดีตปราการหลังตัวเก๋าของ สโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เป็นหนึ่งหัวใจของแนวรับ
แกรีพัลลิสเตอร์ มีชื่อเต็มว่า แกรี แอนดรูว์ พัลลิสเตอร์ แนวหลังที่มาพร้อมกับความยอดเยี่ยมในลูกกลางอากาศ เป็นอดีตนักฟุตบอลอาชีพชาวอังกฤษ และนักวิจารณ์เกมฟุตบอลทางโทรทัศน์ ในฐานะผู้เล่นเขาเป็นกองหลัง ตั้งแต่ปีค.ศ.1984 ถึง ค.ศ.2001 และเป็นที่รู้จักมากที่สุดในช่วงเวลาเก้าปี ที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดตั้งแต่ปีค.ศ.1989 ถึงค.ศ.1998 เกียรติยศของเขาที่ยูไนเต็ดได้แก่ 4พรีเมียร์ลีก, 3เอฟเอคัพ, ลีกคัพ, ยูโรเปียนคัพวินเนอร์สคัพ และ5แชริตีชีลด์
เขาเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีในการเล่นใน แนวหลังที่มาพร้อมกับความยอดเยี่ยมในลูกกลางอากาศ ตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟร่วมกับ สตีฟบรูซ เขาเคยเล่นให้กับมิดเดิลสโบรช์ ซึ่งเป็นทีมแรกในอาชีพค้าแข้งของเขาถึง 2ครั้ง โดยลงเล่นมากกว่า 200 นัดทั้งสองช่วงเวลา รวมทั้งเล่นยืมตัวช่วงสั้นๆ กับดาร์ลิงตันในปีค.ศ.1985 ตำนานกองหลังแห่งทัพปีศาจแดง เขาติดทีมชาติอังกฤษ 22 นัดระหว่างปีค.ศ.1988 ถึง ค.ศ. 1996
เช่นเดียวกันเขาติดทีมชาติอังกฤษ ชุดบี 9นัดหลังจากแขวนสตั๊ดแล้ว แกรีพัลลิสเตอร์ ตำนานกองหลังแห่งทัพปีศาจแดง ได้ทำงานในสื่อและได้ปรากฏตัวเป็นนักวิจารณ์เกมฟุตบอลทางบีบีซี สปอร์ต และไอทีวี สปอร์ตโดยปรากฏตัวในฟุตบอล โฟกัส และไฟนอล สกอร์ ดูบอลออนไลน์
มาดูถึงประวัติของ แกรีพัลลิสเตอร์ ว่ามีเส้นทางลูกหนังเป็นมาอย่างไร? ก่อนมามีชื่อเสียงโด่งดัง ที่เหล่าแฟนบอลผีแดงรู้จัก
แม้จะเกิดในแรมส์เกต เคนท์ แต่พัลลิสเตอร์ก็เติบโตในนอร์ตัน เดอรัม และสนับสนุนสโมสรมิดเดิลส์เบรอ ที่อยู่ใกล้เคียงอาชีพนักฟุตบอลของเขา เริ่มต้นที่สโมสรนอกลีก บิลลิงแฮมทาวน์ เมื่ออายุได้ 19ปี ตำนานกองหลังแห่งทัพปีศาจแดง เขาเข้าร่วมสโมสรในวัยเด็กอย่าง มิดเดิลส์เบรอในฐานะกองหลัง เขาลงเล่นในลีก 156 นัดในช่วงเกือบ 5 ฤดูกาล และช่วยให้พวกเขาเลื่อนชั้น 2ครั้งติดต่อกัน สู่ฟุตบอลลีกดิวิชัน 2 ในปีค.ศ.1987 และดิวิชัน 1 ในปีค.ศ.1988
เขาย้ายไปแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ในวันอังคารที่ 29สิงหาคม ค.ศ.1989 ด้วยค่าตัว 2.3ล้านปอนด์ การย้ายทีมของพัลลิสเตอร์ ทำลายสถิติค่าตัวกองหลัง รวมถึงเป็นค่าตัวสูงสุด ระหว่างสโมสรในอังกฤษ และเป็นค่าตัวสูงสุดอันดับ2 ที่สโมสรในอังกฤษจ่าย (รองจากเอียน รัช ที่กลับมาลิเวอร์พูลจากยูเวนตุส เมื่อหนึ่งปีก่อน) แกรีพัลลิสเตอร์ มีความสำเร็จที่หาได้ยากในการเป็น ผู้เล่นทีมชาติอังกฤษก่อนที่จ ะปรากฏตัวบนลีกสูงสุด ในปีค.ศ.1988
ขณะเล่นในดิวิชั่น 2 (ปัจจุบันคือ อีเอฟแอลแชมเปียนชิป) ให้กับมิดเดิลส์เบรอ ตำนานกองหลังแห่งทัพปีศาจแดง ในปีต่อมาเขาช่วยให้โบโรเลื่อนชั้น เป็นครั้งที่สองติดต่อกันและขึ้นสู่ดิวิชัน1 เพียง 2 ปีหลังจากที่พวกเขา เกือบจะยุบสโมสรแต่ในที่สุด พวกเขาก็ไม่สามารถอยู่รอดบนลีกสูงสุด ด้วยการตกชั้นในวันสุดท้าย ของฤดูกาล1988–89 ในฐานะหนึ่งในกองหลังที่ได้รับ การยกย่องสูงสุดในอังกฤษ เขาเริ่มต้นฤดูกาล1989–90 โดยยังอยู่กับสโมสรในดิวิชั่น2
ก่อนย้ายไปยูไนเต็ด เขาเป็นกองหลังที่ยอดเยี่ยม ที่ช่วยให้แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกพร้อมกับ สตีฟ บรูซ กลายเป็นหัวใจของแนวรับ ทำให้เป็นหนึ่งในคู่หูกองหลัง ตัวกลางที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ ของสโมสรในฤดูกาล1992–93 เขาทำประตูที่น่าจดจำในเกมเหย้า นัดสุดท้ายของฤดูกาลที่พบกับแบล็กเบิร์นโรเวอส์ ภายใต้การนำของเคนนี ดัลกลิช ในช่วงทดเวลาเจ็บ ทีมของเขาชนะ 2-1
โดยเขายิงฟรีคิกจากริมเขตโทษ เข้ามุมล่างประตูมันเป็นประตูแรกของเขา แกรีพัลลิสเตอร์ แนวหลังที่มาพร้อมกับความยอดเยี่ยมในลูกกลางอากาศ ในฤดูกาลนี้และเป็นฤดูกาลที่เหลือเชื่อสำหรับ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เขาจับคู่บรูซในฐานะกองหลังตัวกลาง แทบทุกนัดจนกระทั่งบรูซออกจาก ยูไนเต็ดไปร่วมเบอร์มิงแฮมซิตี แบบไม่มีค่าตัวเมื่อจบฤดูกาล1995–96 ในฤดูกาลถัดมา พัลลิสเตอร์จับคู่กับเดวิด เมย์ อดีตตัวสำรองของบรูซหรือกับ รอนนี่ ยอห์นเซน
ผู้เล่นที่เซ็นสัญญาใหม่ และจบลงด้วยการที่ยูไนเต็ด แนวหลังที่มาพร้อมกับความยอดเยี่ยมในลูกกลางอากาศ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยที่4 ใน 5ฤดูกาล ไฮไลท์ของฤดูกาลนี้สำหรับ พัลลิสเตอร์คือการทำ 2ประตูในเกมเยือนที่ชนะลิเวอร์พูล 3-1 ในศึกแดงเดือดที่แอนฟีลด์ ปราการหลังขาบู๊ทัพปีศาจแดง
ผลงานของแกรีพัลลิสเตอร์ ในทัพปีศาจแดง
แกรีพัลลิสเตอร์ แนวหลังที่มาพร้อมกับความยอดเยี่ยมในลูกกลางอากาศ คว้าแชมป์เอฟเอคัพ 3สมัยในปี1990, 1994 และ1996, ยูโรเปียนคัพวินเนอร์สคัพ 1 สมัยในปี1991, ฟุตบอลลีกคัพ 1 สมัยในปี1992 และพรีเมียร์ลีก 4 สมัยในปี1993, 1994, 1996 และ1997 รวมถึงเกียรติยศอื่นๆ เขายังเป็นส่วนหนึ่งของทีมชุดรองแชมป์ลีก 3 สมัยในปี1992, 1995 และ1998
รวมถึงทีมชุดรองแชมป์ลีกคัพ 2 สมัยในปี1991 และ1998 และเอฟเอคัพ 1 สมัยในปี1995 เมื่อถึงเวลาที่เขาออกจาก โอลด์แทรฟฟอร์ด หลังจากเล่นให้กับสโมสรถึง 9ปี เขาเป็นผู้เล่นคนเดียวที่เก็บเหรียญแชมป์ ตำนานกองหลังแห่งทัพปีศาจแดง จากความสำเร็จทั้งหมดของสโมสร ภายใต้การคุมทีมของอเล็กซ์ เฟอร์กูสัน และรองจากไบรอัน แมคแคลร์เท่านั้น (ซึ่งออกจากยูไนเต็ดในเวลาเดียวกัน)
ในฐานะที่เขาเป็นผู้เล่นที่รับใช้ สโมสรนานที่สุดเขายังทำประตูสำคัญๆ ให้กับยูไนเต็ดอีกด้วย เขาทำประตูตีเสมอในช่วงต่อเวลาพิเศษ กับคริสตัลพาเลซในเอฟเอคัพรอบรองชนะเลิศปี1994-95 ที่วิลลาพาร์ก แนวหลังที่มาพร้อมกับความยอดเยี่ยมในลูกกลางอากาศ ทำให้ต้องเล่นนัดรีเพลย์ซึ่งยูไนเต็ดชนะ และพัลลิสเตอร์ทำประตูได้อีกครั้ง ในเดือนเมษายน ค.ศ.1997 เขายิง 2 ประตูใส่ลิเวอร์พูลในศึกแดงเดือด “ศึกตัดสินแชมป์” ซึ่งจบลงด้วยการที่ยูไนเต็ดชนะ 3-1 ที่แอนฟีลด์
นี่เป็น 2 ประตูสุดท้ายที่เขายิงให้กับสโมสร ตำนานกองหลังแห่งทัพปีศาจแดง ซึ่งทำให้เขาคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยที่ 4 ในรอบ 5 ฤดูกาลหลังจากนั้นไม่นาน ประตูแรกของเขากับยูไนเต็ดเกิดขึ้นในวันที่ 12พฤศจิกายน ค.ศ.1989 โดยเขายิงประตูชัยในเกมเปิดบ้าน เอาชนะนอตทิงแฮมฟอเรสต์ 1-0 ในดิวิชั่น1 ฤดูกาลสุดท้ายที่พัลลิสเตอร์เล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดคือฤดูกาล1997–98 ซึ่งแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เป็นรองแชมป์โดยแพ้ อาร์เซนอล เพียง 1 คะแนน
ในการกลับไปมิดเดิลส์เบรอ
ตอนนั้นพัลลิสเตอร์อายุ 33ปี ตำนานกองหลังแห่งทัพปีศาจแดง และยูไนเต็ดเซ็นสัญญาคว้ายาป สตัมจากเปเอสเฟ ไอนด์โฮเฟิน มาเป็นกองหลังตัวกลางคนใหม่ ทำให้พัลลิสเตอร์ถูกขายกลับไปที่ มิดเดิลส์เบรอ ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ.1998 ด้วยราคา 2.5ล้านปอนด์ มากกว่าตอนที่เขาย้ายไปแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 200,000ปอนด์ เขากลับมาที่ทีไซด์โดยผู้จัดการทีม ไบรอัน ร็อบสัน อดีตกัปตันทีมยูไนเต็ด ที่เคยเล่นเคียงข้าง
แกรีพัลลิสเตอร์ แนวหลังที่มาพร้อมกับความยอดเยี่ยมในลูกกลางอากาศ ที่โอลด์แทรฟฟอร์ดจนถึงปีค.ศ.1994 เขายิงได้เพียงประตูเดียวในเกม พบเซาแทมป์ตันจาก 55นัดในลีก รวมถึงลงเล่นในเอฟเอคัพ 2 นัดและลีกคัพ 4นัด ฤดูกาลสุดท้ายของเขาซึ่ง มิดเดิลส์เบรอจบอันดับที่14 ในลีกคือฤดูกาล2000-2001 เขาแขวนสตั๊ดเนื่องจาก อาการบาดเจ็บต่อเนื่อง ในวันที่ 4กรกฎาคม ค.ศ.2001 ขณะอายุ 36ปี เพียง 3 สัปดาห์หลังจากการแต่งตั้ง สตีฟ แมคคลาเรน เป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ หลังจากการจากไปของร็อบสัน